วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557






ตำนาน แจ็คแดเนียล (Jack Daniel's)









  
     

           แจ๊ค แดเนียลส์ เทนเนสซี่ วิสกี้ คือ วิสกี้เพียง1เดียวของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับความนิยมจากนักดื่มทั่วโลก และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาเป็นเวลากว่า 163 ปี ซึ่งในแต่ละปี จะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกไปเยี่ยมชมกระบวนการผลิต เพื่อค้นหาคำตอบของรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของ แจ๊ค แดเนียลส์
บราวน์ - ฟอร์แมน ไทยแลนด์ แอล.แอล.ซี. ผู้นำเข้า และจัดจำหน่าย แจ๊ค แดเนียลส์ เทนเนสซี่ วิสกี้ในประเทศไทย จัดกิจกรรมพิเศษนำคณะผู้จัดจำหน่าย และสื่อมวลชนจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ กว่า 20 ชีวิต ร่วมบินลัดฟ้าไปไกลถึงประเทศสหรัฐอเมริกา ต้นกำเนิดอเมริกันวิสกี้ พันธุ์แท้อย่าง “แจ๊ค แดเนียลส์” โดยทริปนี้ มี คุณนฤมล บุญเปลื้อง ผู้จัดการฝ่ายการตลาดส่วนพัฒนาแบรนด์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคุณภาวิน พงศ์พันธุ์ภักดี ผู้จัดการตลาด ประจำประเทศไทย นำทัวร์ตลอด 10 วัน ตั้งแต่ วอชิงตัน ดี.ซี. เคนตั๊กกี้ เทนเนสซี่ นิวออร์ลีนส์ ไปจนถึงนิวยอร์ค
ในทริปนี้ ยังได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชม กระบวนการผลิต แจ๊ค แดเนียลส์ เทนเนสซี่ วิสกี้ (Jack Daniel’s Tennessee Whiskey) ณ โรงกลั่นซึ่งตั้งอยู่ในเมืองลินช์เบิร์ก รัฐเทนเนสซี่ (Lynchburg, Tennessee) และ เยี่ยมชมโรงกลั่น วู้ดฟอร์ด รีเซิร์ฟ (Woodford Reserve) สเตรท เบอร์เบิร์น วิสกี้ ณ เมืองแวร์ซาย รัฐเคนตั๊กกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา (Versailles, Kentucky) อีกด้วย
คุณนฤมล บุญเปลื้อง ผู้จัดการฝ่ายการตลาดส่วนพัฒนาแบรนด์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เล่าให้ฟังระหว่างการเยี่ยมชมโรงกลั่นแจ๊ค แดเนียลส์ ว่า โรงกลั่นแจ๊ค แดเนียลส์ ก่อตั้งโดย “มิสเตอร์แจ๊ค” หรือ Mr. Jasper Newton Daniel ณ เมืองลินช์เบิร์ก รัฐเทนเนสซี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับใบอนุญาตในปี ค.ศ.1866 ซึ่งถือเป็นโรงกลั่นขึ้นทะเบียนที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นสถานที่แห่งจุดเริ่มต้นของตำนาน โรงกลั่นนี้ คือ สถานที่ที่มิสเตอร์แจ๊ค สร้างสรรค์สูตร Old No. 7 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก และยังเป็นสถานที่ที่ใช้กลั่น “แจ๊ค แดเนียลส์” ทุกหยดในปัจจุบัน
คุณภาวิน พงศ์พันธุ์ภักดี ผู้จัดการตลาดประจำประเทศไทย อธิบายถึงกระบวนการผลิตว่า ทุกวันนี้ แจ๊ค แดเนียลส์ เทนเนสซี่ วิสกี้ ยังใช้ขั้นตอนการผลิตในรูปแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ทำให้ แจ๊ค แดเนียลส์ มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร และแตกต่างจาก วิสกี้ แบรนด์อื่นอย่างชัดเจน นับตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ บวกกับกรรมวิธีที่ทำให้วิสกี้มีรสนุ่ม ซึ่งกระบวนการต่างๆ เหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็นกระบวนการสำคัญ 4 ประการ คือ
1. เลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ โดยใช้แหล่งน้ำบริสุทธิ์จากลำธารใต้ดินในเมืองลินช์เบิร์ก รัฐเทนเนสซี ซึ่งมีอุณหภูมิคงที่ 13 องศาเซลเซียส และปราศจากธาตุเหล็ก เพราะธาตุเหล็กจะส่งผลเสียต่อรสชาติของวิสกี้ จากนั้นจะนำมาคลุกเคล้าด้วยส่วนผสมของธัญพืชจากธรรมชาติ เช่น ข้าวโพด ข้าวไรน์ ข้าวบาร์เลย์ เติมยีสต์ นำไปหมักรวมกัน 5 วัน แล้วนำไปผ่านกระบวนการกลั่นถึง 2 ครั้ง
2. กระบวนการ Charcoal Mellowing ภายหลังจากผ่านกระบวนการกลั่นมา 2 ครั้ง จนได้ที่แล้ว จะเข้าสู่กรรมวิธีที่เรียกว่า Charcoal Mellowing ซึ่งเป็นกระบวนการที่ถือว่ามีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดในการผลิต โดยการนำเอา “ไม้ชูก้าร์ เมเปิ้ล” มาเผาจนได้ถ่านไม้ที่มีความหอม แล้วนำมาบรรจุลงในถังที่มีความสูง 10 ฟุต จากนั้นนำวิสกี้มากรองผ่านถ่านไม้อย่างช้าๆ ทีละหยด เพื่อให้ได้วิสกี้รสชาติกลมกล่อมนุ่มละมุนไม่เหมือนใคร และจากกระบวนการผลิตนี้เองที่ทำให้กฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดให้ แจ๊ค แดเนียลส์ เป็น เทนเนสซี่ วิสกี้ ไม่ใช่เบอร์เบิร์น (Bourbon)
3. การบ่มด้วยถังไม้โอ๊คใหม่ เมื่อวิสกี้ผ่านกระบวนการ Charcoal Mellowing แล้ว จึงบรรจุลงใน “ถังไม้โอ๊คขาว” (American White Oak) ซึ่งเป็นถังบ่มที่เราผลิตขึ้นเอง โดยนำแผ่นไม้โอ๊คมาประกอบกันทีละแผ่นจนเป็นถังบ่ม และลนภายในถังไม้ด้วยเปลวไฟ เพื่อให้น้ำตาลตามธรรมชาติในไม้เปลี่ยนเป็นคาราเมล ซึ่งเมื่อวิสกี้ไหลผ่านเข้า-ออกเนื้อไม้ ตามการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศโดยรอบ จะทำให้ได้กลิ่นหอมเหมือนรมควัน และวิสกี้ที่ได้มีสีเหลืองเข้มดุจอำพัน จากนั้นจะนำเข้าสู่โรงบ่ม ซึ่งจะใช้ระยะเวลาการบ่มขั้นต่ำ 4 ปี โดยกระบวนการผลิตทั้งหมดนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ “โรงกลั่น แจ๊ค แดเนียลส์” เท่านั้น สำหรับถังไม้โอ๊คนี้เราจะใช้บ่มเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นจะส่งไปขายต่อให้กับบริษัทผลิตวิสกี้ยี่ห้อต่าง ๆ ในประเทศสก็อตแลนด์ และประเทศอื่นๆ
4. การยึดมั่นในปรัชญาการผลิตวิสกี้ของมิสเตอร์แจ๊ค พนักงานทุกคนจะยึดมั่นในปรัชญาการผลิตวิสกี้ของมิสเตอร์แจ๊ค ที่จะผลิตวิสกี้ที่มีรสชาติดีที่สุดในโลก ผู้บริหารและพนักงานทุกคนตั้งแต่ยุคเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ต่างให้ความสำคัญกับการผลิตวิสกี้ที่มีรสชาติมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ตั้งแต่มีกำลังการผลิตเพียงไม่กี่ถัง จนถึงวันนี้ได้ครองตำแหน่งวิสกี้ที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับหนึ่งทั่วโลก ทุกวันนี้พนักงานทุกคนยังคงยึดมั่นกับปรัชญาการผลิตของมิสเตอร์แจ๊ค ที่ว่า “ทุกๆ วันที่เราผลิตวิสกี้ เราต้องทำมันให้ดีที่สุด”
ปัจจุบันวิสกี้ในตระกูลแจ๊ค แดเนียลส์ ที่ผลิต ณ โรงกลั่นแห่งนี้ มีอยู่ด้วยกัน 4 ชนิด ได้แก่ แจ๊ค แดเนียลส์ เทนเนสซี วิสกี้ (Jack Daniel’s Old No. 7 Tennessee Whiskey) เจนเทิลแมน แจ๊ค (Gentleman Jack Rare Tennessee Whiskey) แจ๊ค แดเนียลส์ ซิงเกิล บาร์เรล (Jack Daniel’s Single Barrel Tennessee Whiskey) และ แจ๊ค แดเนียลส์ เทนเนสซี ฮันนี่ (Jack Daniel’s Tennessee Honey)
หลังจากได้เยี่ยมชมโรงกลั่น แจ๊ค แดเนียลส์ ได้เรียนรู้กระบวนการผลิตกันอย่างลึกซึ้งแล้ว เราได้เดินทางต่อไปยังเมืองแวร์ซาย รัฐเคนตั๊กกี้ (Versailles, Kentucky) เพื่อเยี่ยมชมโรงกลั่น วู้ดฟอร์ด รีเซิร์ฟ (Woodford Reserve) สเตรท เบอร์เบิร์น วิสกี้ กันต่อ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ เบอร์เบิร์น ที่กำลังเป็นที่นิยม และมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย